ตรวจเอดส์ กี่วันรู้ผล
โรคเอดส์ (AIDS) เป็นภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเราได้รับเชื้อเอชไอวี (HIV) เข้าไปแล้ว ประมาณ 8-10 ปี นั่นก็หมายถึงเราไม่ได้เป็นโรคเอดส์ทันทีที่ได้รับเชื้อเอชไอวี (HIV) แต่การติดเชื้อ HIV จะสามารถพัฒนากลายเป็นโรคเอดส์ได้หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ซึ่งโรคเอดส์นั้นจะมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องที่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆมากมายจนนำไปสู่อันตรายถึงชีวิต ดังนั้นเราจำเป็นต้องรู้ว่าเราได้รับเชื้อเอชไอวี (HIV) มาหรือไม่และวิธีเดียวที่จะทำให้รู้ได้ก็คือ การเข้ารับการตรวจหาเชื้อเอชไอวี (HIV) ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) โดยส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าตัวเองมีมีเชื้อเอชไอวี (HIV) อยู่ภายในร่างกาย เพราะการติดเชื้อในระยะเริ่มแรก อาจจะยังไม่แสดงอาการออกมาให้เห็น ดังนั้น ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการรับเชื้อเอชไอวี (HIV) ควรรีบเข้ารับการตรวจคัดกรองเพื่อวินิจฉัยการติดเชื้อ ซึ่งจะช่วยลดความกังวลใจสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยง ทำให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง รวดเร็ว ได้รับทราบข้อมูลในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รวมถึงเทคนิคในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคเพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายจากการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) และนำไปสู่ผู้ป่วยโรคเอดส์เต็มขั้น ในขณะที่ผู้ที่เข้ารับการตรวจที่มีผลเลือดเป็นลบ จะได้รับทราบข้อมูลในการปฏิบัติตัวเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อในอนาคตต่อไป
Table of Contents
ตรวจเอดส์ กี่วันรู้ผล
การตรวจ HIV มีหลายวิธี แต่ละวิธีก็มีรูปแบบที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ การตรวจเอดส์นั้น เราจำเป็นต้องประเมินวันที่เราคิดว่ามีความเสี่ยงในการรับเชื้อเอชไอวี (HIV) เพื่อคำนวณหาวันที่จะเข้ารับการตรวจที่เหมาะสม ปัจจุบันมีวิธีการตรวจ skเชื้อเอชไอวี (HIV) ที่ได้รับความนิยม ได้แก่
การตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อเอชไอวีหรือ nucleic acid test (NAT)
เป็นวิธีที่มีความไวมากที่สุด โดยสามารถตรวจการติดเชื้อได้ตั้งแต่ 3-7 วันหลังการติดเชื้อ ปัจจุบันวิธีนี้ใช้ในการตรวจคัดกรองเลือดผู้บริจาคโลหิตแต่ยังไม่นำมาใช้ในการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อเอชไอวีในสถานพยาบาล
การตรวจหาแอนติเจนของเชื้อ HIV
การตรวจหาแอนติเจนของเชื้อ HIV หรือ HIV p24 antigen testing เป็นการตรวจโปรตีนของเชื้อที่ชื่อว่า p24 ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ตรวจการติดเชื้อในระยะแรก ผู้ได้รับเชื้อยังไม่สร้างแอนติบอดีต่อเชื้อ HIV (Anti-HIV) วิธีนี้สามารถตรวจได้ภายหลังการติดเชื้อประมาณ 14-15 วัน หากตรวจพบแอนติเจนของเชื้อ HIV จะต้องตรวจหาแอนติบอดีของเชื้ออีกครั้ง เมื่อผ่าน 21-30 วัน ที่ได้รับความเสี่ยงมา
การตรวจหาแอนติบอดีที่จำเพาะต่อเชื้อเอชไอวี (Anti-HIV testing)
การตรวจหาแอนติบอดีที่จำเพาะต่อเชื้อ HIV หรือ Anti-HIV testing เป็นวิธีที่นิยมใช้ในการตรวจคัดกรองการติดเชื้อไวรัส HIV ในปัจจุบัน เพราะให้ผลที่ค่อนข้างแม่นยำแต่สามารถตรวจพบได้หลังการติดเชื้อประมาณ 3-4 สัปดาห์ ทำให้ผู้ที่ได้รับความเสี่ยงส่วนใหญ่เลือกที่จะเทส 14 วันก่อน
การตรวจแบบ Fourth generation (HIV Ag/Ab combination assay)
การตรวจโดยน้ำยาตรวจแบบ Fourth generation เป็นการตรวจโดยใช้ชุดตรวจแอนติบอดีจำเพาะต่อเชื้อ HIV และแอนติเจนของเชื้อพร้อมกันในน้ำยาเดียวกัน (HIV Ag/Ab combination assay) จึงเป็นการตรวจ Anti-HIV และ/หรือ HIV p24 antigen ในคราวเดียว สามารถตรวจพบการติดเชื้อได้เร็วที่สุด 14-15 วัน หรือ 2 สัปดาห์หลังติดเชื้อ ซึ่งปัจจุบันน้ำยาประเภทนี้มีการใช้อย่างแพร่หลายเพื่อตรวจคัดกรองผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี ให้ผลที่เชื่อถือได้
การตรวจแบบ Rapid HIV Test หรือชุดตรวจแบบวันเดียวรู้ผล
การตรวจแบบ Rapid HIV Test จะใช้เวลาในการ รอผลตรวจเพียง 20 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่า มีความรวดเร็ว กว่าวิธี การตรวจแบบอื่น ๆ แต่การตรวจด้วยวิธีการนี้ ก็เป็นเพียงการตรวจเพื่อคัดกรอง เบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบัน การตรวจด้วยวิธีการนี้ ก็สามารถทำการตรวจ ได้ด้วยตนเองที่บ้าน โดยไม่ต้อง เดินทางไปตรวจ ตามโรงพยาบาล คนทั่วไปที่กังวลว่าตนเองมีความเสี่ยงในการรับเชื้อเอชไอวี (HIV) สามารถหาซื้อได้ง่าย โดยมีทั้งชุดตรวจที่ผ่านการรองรับกับทาง อย.ด้วย
การตรวจคัดกรองการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ใช้เวลานานเท่าใดจึงจะทราบผล ?
โดยส่วนใหญ่แล้ว การตรวจคัดกรองการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) จะสามารถทราบผลได้ภายใน 1 วัน โดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะแจ้งผลให้เจ้าตัวทราบ และผลการตรวจจะถูกเก็บเป็นความลับ รวมทั้งผู้ที่รับการตรวจจะได้รับคำอธิบายและคำแนะนำในการป้องกันตัวเองไม่ให้มีพฤติกรรมเสี่ยงอีกด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ใช้การตรวจแบบ Rapid HIV Test จะใช้เวลาในการ รอผลตรวจเพียง 20 นาทีเท่านั้น
ราคาการตรวจเอชไอวีด้วยตัวเองและตรวจ ณ สถานบริการ
ข้อแตกต่าง | ตรวจโดยหน่วยบริการ | ตรวจเอชไอวีด้วยตัวเอง |
การให้คำปรึกษา | จะมีผู้ให้คำปรึกษา | ต้องอ่านคู่มือเอง |
ราคา | แล้วแต่สถานบริการ ฟรี หากเป็นของรัฐ -1000 | 500-700 |
ความลับ | จะมีเจ้าหน้าที่แจ้งผล | สามารถทราบผลด้วยตัวเอง |
เวลา | ต้องรอคิว และการให้คำปรึกษา และรอผล | สามารถทราบผลได้ทันที |
ความสะดวก | ค้นหาศูนย์บริการ | สามารถซื้อได้จากร้านขายยาและOnline |
การทดสอบ | โดยทีมทางการแพทย์ | สามารถทำเองได้ |
จะเห็นได้ว่าโรคเอดส์ยังคงเป็นโรคติดต่อที่หลายคนรู้สึกหวาดกลัว เพราะถึงแม้เราจะรู้จักกับโรคนี้มาอย่างยาวนานแต่ในปัจจุบันก็ยังคงไม่มียารักษาโรคโดยตรงที่รักษา แต่มีองค์ความรู้เกี่ยวกับการดูแลรักสุขภาพให้ดีภายหลังการรับเชื้อเอชไอวี (HIV) เพื่อป้องกันการเข้าสู่ภาวะของโรคเอดส์ได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น การตรวจเอดส์ จึงไม่ใช่การตรวจอาการของโรคเอดส์ แต่เป็นการตรวจเพื่อหาเชื้อเอชไอวี (HIV) ซึ่งเป็นเชื้อที่ทำให้เกิดการพัฒนาไปสู่โรคเอดส์ได้ เราทุกคนที่พบว่าตัวเองมีความเสี่ยงควรหาช่องทางในการตรวจเพื่อที่เราจะได้รักษาอาการของโรคได้ทันท่วงที
2 Comments
Comments are closed.